วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

Ester





   

















สมบัติทางเคมี


        
        1.เอสเทอร์กับกรดคาร์บอกซิลิกเป็นไอโซเมอร์โครงสร้างกัน โดยเอสเทอร์จะมีจุดเดือดต่ำกว่ากรดคาร์บอกซิลิก เนื่องจากเอสเทอร์ไม่มีพันธะไฮโดรเจนยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลจึงน้อยกว่ากรดคาร์บอกซิลิก

         2.เมื่อมีจำนวนอะตอมคาร์บอนเพิ่มขึ้น เอสเทอร์จะมีจุดเดือดสูงขึ้น
         3.เอสเทอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กจะละลายน้ำได้ แต่สภาพละลายได้จะลดลงเมื่อจำนวนอะตอมเพิ่มขึ้น
สมบัติทางกายภาพ
        4.มีจุดหลอมเหลวจุดเดือดต่ำกว่าแอลกอฮอล์ และกรดอินทรีย์ที่มีมวลโมเลกุลเท่ากัน เพราะในเอสเทอร์ไม่มีพันธะไฮโดรเจน

         5.เอสเทอร์ที่มีขนาดเล็กมีคาร์บอนอะตอม 2-5 อะตอม ละลายน้ำได้ดี ถ้าโมเลกุลใหญ่จะละลายน้ำได้น้อยลง
        6.เอสเทอร์เป็นของเหลวระเหยง่าย ส่วนใหญ่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อโมเลกุลใหญ่ขึ้นกลิ่นจะลดลง



ปฏิกิริยาเคมีของเอสเทอร์

        ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส (Hydrolysis = การแยกสลายด้วยน้ำ)  เอสเทอร์เกิดปฏิกิริยาไฮโดลิซีสได้ทั้งในสารละลายเบสและสารละลายกรดเมื่อให้ความร้อนดังนี้

 1.1  ในสารละลายเบส  เอสเทอร์จะทำปฏิกิริยากับน้ำได้กรดอินทรีย์ และแอลกอฮอล์  โดยมีเบสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา  แต่กรดอินทรีย์ที่เกิดขึ้นจะทำปฏิกิริยากับเบสต่อไปทันที   ได้เกลือของกรดอินทรีย์และน้ำ  ดังนั้นปฏิกิริยานี้จึงไม่ผันกลับ  และผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น คือ เกลือของกรดอินทรีย์ และ แอลกอฮอล์  เช่น  ถ้าเกิดในสารละลาย NaOH เขียนสมการทั่วไปได้ดังนี้



เมื่อนำสารละลายเกลือโซเดียมของกรดอินทรีย์มาเติมกรดแก่ก็จะได้กรดอินทรีย์คืนมา



ตัวอย่าง



เมื่อนำสารละลายที่ได้มาเติมกรด เช่น กรดกำมะถันจะได้กรดแอซีติกคืนมา
  ดังสมการ





     


1.2 ในสารละลายกรด  เอสเทอร์จะทำปฏิกิริยากับน้ำโดยมีกรดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา  ได้กรดอินทรีย์และแอลกอฮอล์  และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเป็นปฏิกิริยาที่ผันกลับได้


                                                    à¸£à¸¹à¸›à¸ à¸²à¸žà¸—ี่เกี่ยวข้อง
2. เอสเทอร์ทำปฏิกิริยากับแอมโมเนียได้เอไมด์ (Amide) และแอลกอฮอล์




3. เอสเทอร์บางชนิดสามารถเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชั่น ได พอลิเอสเทอร์ เช่น





                                           
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

  
 •ปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชัน(Saponification)เป็นปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสไขมันและน้ำมันด้วยเบส เป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากไขมันและน้ำมันกับด่าง เกิดเกลือของกรดไขมัน (RCOO– Na+) ซึ่งก็คือ สบู่ กับกลีเซอรอล ดังนี้ คือ



แหล่งและประโยชน์ของเอสเทอร์

พบมากในธรรมชาติจากสัตว์และพืช เช่น น้ำมันพืช กลิ่นหอมจากดอกไม้ กลิ่นแมงดาทะเลและกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้น จึงนิยมใช้สารแต่งกลิ่นอาหาร ทำน้ำหอม เป็นตัวทำละลาย เช่น น้ำมันขัดเงา น้ำยาล้างเล็บ บางชนิดเป็นยาบรรเทาอาการปวดเมื่อย เช่น น้ำมันระกำเป็นยาที่ใช้ระงับปวด เช่น แอสไพริน และยังใช้เอสเทอร์ในอุตสาหกรรมผลิตเส้นใยสังเคราะห์ด้วย
ประโยชน์ของเอสเทอร์

1. เอสเทอร์เป็นสารที่มีกลิ่นหอม ซึ่งพบในผลไม้หรือดอกไม้ต่าง ๆ ซึ่งให้กลิ่นต่าง ๆ เช่น
กรด แอลกอฮอล์ เอสเทอร์ ชื่อ กลิ่น
CH3COOH CH3CH2OH CH3COOCH2CH3 เอทิลเอทาโนเอต น้ำยาล้างเล็บ
CH3COOH C4H9OH CH3COOC4H9 บิวทิลเอทาโนเอต กล้วย
CH3COOH C5H11OH CH3COOC5H11 เพนทิลเอทาโนเอต ดอกนมแมว
C3H7COOH CH3OH C3H7COOCH3 เมทิลบิวทาโนเอต แอปเปิล
C3H7COOH CH3CH2OH C3H7COOCH2CH3 เอทิลบิวทาโนเอต สับปะรด
CH3COOH CH3(CH2)6OH CH3COOCH2(CH2)6CH3 ออกทิลเอทาโนเอต ส้ม
CH3OH

2. ไขมันหรือน้ำมัน จัดเป็นเอสเทอร์ซึ่งเกิดจากแอลกอฮอล์ชื่อกลีเซอรอลและกรดคาร์บอกซิลิกชื่อกรดไขมัน
3. เอทิลแอซีเตต ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาล้างเล็บ และใช้เป็นตัวทำละลาย
4. เมทิลซาลิซิเลต หรือน้ำมันระกำ ใช้เป็นส่วนผสมในยาบรรเทาอาการปวดเมื่อย
5. เอสเทอร์บางชนิดใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเส้นใยสังเคราะห์






Ester

    สมบัติทางเคมี                  1. เอสเทอร์กับกรดค...